Netherland

About This Project

euro-dutch-holland-netherlands-skyline-europe-city-162654
 

ประเทศเนเธอร์แลนด์หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่าฮอลแลนด์ เป็นประเทศที่มีความโดดเด่นทั้งทางด้านมรดกวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ปรัชญา วิทยาศาสตร์ และศิลปะ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งการค้ามาตั้งแต่ในสมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจที่นักศึกษาคนไทยหลาย ๆ คนเลือกไปศึกษาต่อเนเธอร์แลนด์ ในระดับอุดมศึกษา



ทำไมถึงต้องเรียนที่เนเธอร์แลนด์

– ชาวดัตช์เป็นพ่อค้าและเป็นผู้ค้นพบ ดังจะเห็นได้จากบุคคลในตำนาน ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลทั้งในสาขาวรรณกรรม, ปรัชญา, ศิลปะ และวิทยาศาสตร์

– เนเธอร์แลนด์เป็นชาติสร้างสรรค์ ชาวดัตช์มักจะสนุกกับนวัตกรรมใหม่ๆ และมักจะตั้งคำถามกับตัวเองหรือผู้อื่นอยู่เสมอ เกี่ยวกับแนวคิดใหม่ๆ

– ชาวดัตช์เปิดรับวัฒนธรรมจากต่างชาติ เป็นสังคมที่เปิดกว้าง ประกอบไปด้วยคนหลายเชื้อชาติ ต่างภาษา จึงไม่น่าแปลกใจว่าปัจจุบันมีนักเรียนต่างชาติมากกว่า 81,700 คน ศึกษาอยู่ในเนเธอร์แลนด

– ระบบการศึกษาในระดับอุดมศึกษามีชื่อเสียงในระดับโลก มีคุณภาพสูง มหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย 11 แห่ง จาก 13 แห่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้รับการจัดลำดับให้อยู่ใน 200 อันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก

– ค่าครองชีพในประเทศเนเธอร์แลนด์ไม่แพงมาก ค่าเล่าเรียนนั้นมีราคาถูก ซึ่งจะทำให้นักเรียนได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าในประเทศเนเธอร์แลนด์

– ทำเลที่ตั้งในใจกลางของทวีปยุโรป ทำให้สามารถเดินทางไปมาหาสู่และแลกเปลี่ยนความรู้ความคิดเห็นกันได้ง่าย

– สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการศึกษา สังคมสงบสุข และผู้คนมีนิสัยตรงไปตรงมา ทำให้หาเหตุและผลในการทำสิ่งต่างๆได้มาก

– ชาวดัตช์ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี มีการสอนหลักสูตรการเรียนนานาชาติมากมายมีด้วยกันทั้งหมดถึง 1,560 หลักสูตร มากกว่า 98% ของหลักสูตรเหล่านี้ทำการสอนเป็นภาษาอังกฤษ

 

มหาวิทยาลัยคู่สัญญากับคณะฯ

– Duisenberg School of Finance

– Erasmus University

– Tilburg University

 

มหาวิทยาลัยชั้นนำและความเชี่ยวชาญ

* Erasmus University Rotterdam เด่นทางด้านธุรกิจ บริหาร เศรษฐศาสตร์

* University of Amsterdam เก่งหลายด้าน ทั้งธุรกิจ ภาษา รัฐศาสตร์ นิเทศศาสตร์

* Eindhoven University of Technology ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เทคโนโลยีการสื่อสาร ออกแบบผลิตภัณฑ์

* University of Groningen กฏหมาย ธุรกิจ

* Wageningen UR ด้านการเกษตร การจัดการเกษตร วิทยาศาสตร์สุขภาพ

* Maastricht University การแพทย์ การแปล การจัดการ บริหารธุรกิจ

* Delft University of Technology  วิศวกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรม ออกแบบอุตสาหกรรม การจัดการน้ำ นาโนเทคโนโลยี

* Utrecht University วิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์ เคมี) กฏหมาย สัตวแพทย์

* Tilburg University เศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ กฏหมาย

* Leiden University ภาษา วัฒนธรรม ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ประวัติศาสตร์ การแพทย์ กฏหมาย

* Radboud University วิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์กายภาพ เภสัชศาสตร์

* VU University Amsterdam ธุรกิจ วิทยาศาสตร์การแพทย์

* University of Twente วิศวกรรมศาสตร์

 

มหาวิทยาลัยและการเรียนการสอน

การศึกษาในระดับนี้ในประเทศเนเธอร์แลนด์ จะมี 2 ประเภทของสถาบัน คือ Universities of Applied Sciences และ Research Universities ซึ่งจัดการเรียนการสอนทั้งในระดับปริญญาตรี, ปริญญาโท และปริญญาเอก โดยการเรียนในระดับปริญญาตรี ไม่ว่าจะเป็น B.A., B.Sc., LL.B. จะเรียนทั้งสิ้น 3 ปี แต่ถ้าเป็น B.Eng. หรือ B. Nursing จะเรียนทั้งสิ้น 4 ปี

การเรียนระดับปริญญาโท ถ้าเป็นหลักสูตรทางด้าน Engineering, Agriculture, Mathematics และ Natural Sciences จะต้องเรียน 2 ปี หรือถ้าเป็นหลักสูตรทางด้าน Verinary Medicine, Medicine หรือ Pharmacy จะต้องเรียน 3 ปี ส่วนหลักสูตรอื่น ๆ ที่เน้นการเรียนเฉพาะทฤษฎีจะเรียนแค่ประมาณ 1 ปี

การศึกษาระดับปริญญาเอก (PhD) จะเปิดสอนเฉพาะใน Research University เท่านั้น โดยระยะเวลาในการศึกษาตลอดหลักสูตรคือ 4 ปี ในบางกรณีนักเรียน/นักศึกษาสามารถเลือกเรียนในสถาบันการวิจัยที่ได้มีการทำข้อตกลงไว้กับ Research University นั้นๆได้

ความแตกต่างระหว่าง Research University เละ University of Applied Science สามารถอธิบายได้ดังนี้: Research University จะเน้นการเรียนการสอนเพื่อการศึกษาวิจัยและค้นคว้าเชิงวิชาการ และในบางสาขาวิชาอาจมีทักษะในการประกอบอาชีพผสมรวมอยู่ด้วย อย่างไรก็ดีผู้ที่สำเร็จการศึกษาส่วนมากมิได้ทำงานเกี่ยวกับการค้นคว้าวิจัยแต่อย่างใด ในขณะที่ University of Applied Science (hogescholen) จะมุ่งเน้นภาคปฏิบัติเป็นหลัก และการฝึกงานถือเป็นหัวใจหลักของการเรียนการสอนประเภทนี้

 

ลักษณะการเรียนการสอนในรูปแบบของชาวดัตช์

พื้นฐานของการเรียนเริ่มต้นจากปัญหา (Problem-based Learning)”

เพื่อเป็นการฝึกให้นักเรียนได้วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาในทางปฎิบัติ โดยเน้นการเรียนรู้ด้วยตนเอง นอกจากนี้หลักสูตรการเรียนส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการเขียนรายงาน, การทำงานเป็นกลุ่มเชิงวิเคราะห์ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะทาง รวมถึงการฝึกงาน และการทดลองในห้องปฎิบัติการ

การโต้ตอบในชั้นเรียน

นักเรียนจะถูกฝึกให้คิดเกี่ยวกับความรู้ต่าง ๆ และนำเสนอมันออกมา รวมถึงพัฒนาความรู้ต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็นของสิ่งเหล่านั้น การเรียนของชาวดัตช์ จะไม่ให้นักเรียนเป็นผู้รับความรู้อย่างเดียว แต่นักเรียนจะต้องเป็นคนถาม และวิเคราะห์ในสิ่งที่อาจารย์ได้ตอบกลับมา

 

ค่าใช้จ่ายสำหรับหลักสูตรในระดับปริญญา

รัฐบาลฮอลแลนด์พยายามที่จะทำให้การเรียนระดับอุดมศึกษามีความเป็นไปได้สำหรับนักศึกษาและผู้ประกอบวิชาชีพจากทั่วโลก ค่าเล่าเรียนสำหรับหลักสูตรปริญญาที่สถาบันระดับอุดมศึกษาของฮอลแลนด์เริ่มต้นที่ 1,672 ยูโรสำหรับนักศึกษาจากสหภาพยุโรป ค่าเล่าเรียนสำหรับนักศึกษาจากประเทศนอกสหภาพยุโรปจะมีอัตราที่สูงกว่านี้ โดยเฉลี่ยที่ 8,000 ยูโรต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้ชีวิตของนักศึกษาด้วย

 

ขั้นตอนการสมัครเรียนต่อเนเธอร์แลนด์

1. เตรียมตัวหาข้อมูล เตรียมฟิตภาษาอังกฤษ เตรียมเอกสารให้พร้อม มหาวิทยาลัยในฮอลแลนด์เปิดรับสมัครนักศึกษาต่างชาติประมาณเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนของทุกปี เพื่อที่จะเปิดเรียนเดือนกันยายนปีถัดไป เอกสารที่ต้องใช้โดยทั่วไปได้แก่

a. วุฒิการศึกษาที่จบมา (ม.6 หรือ ปริญญาตรี) หรือจดหมายรับรองว่ากำลังศึกษาอยู่ นักเรียนต่างชาติจะต้องสำเร็จวุฒิการศึกษาขั้นต่ำ ตามที่สถาบันการศึกษานั้นๆกำหนด หรือตามที่สาขาวิชานั้นๆกำหนด โดยคุณสมบัติหลักพื้นฐานของผู้ที่ต้องการจะศึกษาต่อระดับปริญญาตรีคือ วุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า คุณสมบัติหลักพื้นฐานของผู้ที่ต้องการจะศึกษาต่อในระดับปริญญาโทคือ วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า อย่างไรก็ดีในบางสาขาวิชาที่ได้รับความนิยมมากอาจมีการจำกัดในเรื่องของโควต้าจำนวนนักเรียน/นักศึกษา

b. เอกสารแสดงผลการเรียน (transcript)

c. ประวัติย่อส่วนตัว (resume)

d. จดหมายอธิบายเหตุผลว่าทำไมถึงอยากเรียนวิชานี้ ความยาว 300-400 คำ (motivation letter)

e. หนังสือเดินทาง

f. คะแนนสอบภาษาอังกฤษ TOEFL internet based 60 หรือ IELTS 5.0 สำหรับการเรียน preparation course และ  TOEFL550 (Paper based),  TOEFL 213  (Computer based) TOEFL 80 (Internet-based) หรือ IELTS 6.0 สำหรับการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย

g. รูปถ่ายขนาด 1.5 นิ้วสำหรับทำวีซ่าเชงเก้น

h. สูติบัตร (ใบเกิด) และเอกสารการแปลสูติบัตรเป็นภาษาอังกฤษ

2. เข้าไปเช็คฐานข้อมูลโปรแกรมการศึกษาที่เปิดสอนเป็นภาษาอังกฤษในประเทศเนเธอร์แลนด์ สามารถหาข้อมูลได้จาก study finder โปรแกรมการศึกษาที่อยู่ในฐานข้อมูลนี้ล้วนเป็นโปรแกรมที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์แล้ว หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกมหาวิทยาลัยที่เหมาะสม นัฟฟิคเนโซ (Nuffic Neso Thailand) สามารถให้คำแนะนำแก่คุณได้ ส่วนการเรียนปริญญาเอกเนื่องจากเป็นการทำงานวิจัยให้มหาวิทยาลัย นักศึกษาต้องเสนอโครงการเข้าไปคุยกับอาจารย์ ไม่มีเกณฑ์รับสมัครตายตัว แต่มหาวิทยาลัยบางแห่งมีเปิดรับสมัครตำแหน่งนักวิจัยอยู่แล้ว นักศึกษาสามารถเช็คจากในเว็บของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ตลอด

3. เมื่อเลือกสาขาวิชาที่สนใจได้แล้ว สามารถสมัครออนไลน์ได้เลยโดยอัพโหลดเอกสารการสมัครเข้าไปในระบบของมหาวิทยาลัยนั้นๆ บางมหาวิทยาลัยจะแนะนำให้คุณสมัครผ่านเว็บไซท์ www.studielink.nl ซึ่งเป็นเว็บกลางในการสมัครมหาวิทยาลัยในฮอลแลนด์

4. หากมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับเอกสาร ใบสมัคร หรือรายละเอียดอื่นๆให้ติดต่อโดยตรงไปยัง Admission office หรือ International Office ของมหาวิทยาลัยนั้นๆ หรือติดต่อนัฟฟิค เนโซสำหรับความช่วยเหลืออื่นๆได้ โทร. 02-2526088 หรือเฟสบุ๊คแฟนเพจ Nuffic Neso Thailand

 

การใช้ชีวิตในเนเธอร์แลนด์

ที่พักนักศึกษาในฮอลแลนด์ นักศึกษาสามารถเลือกอยู่หอพักนักศึกษา บ้านแบ่งเช่า หรืออพาร์ทเมนต์ โดยหอพักนักศึกษามีทั้งที่อยู่ในแคมปัสและไม่ได้อยู่ในแคมปัส นักศึกษาส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใกล้ตัวเมืองหรือในเมืองที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ แล้วปั่นจักรยานหรือเดินมาเรียน

การเริ่มหาบ้านหรือที่พักต้องเริ่มโดยเร็วที่สุดนับตั้งแต่ตัดสินใจว่าจะไปเรียนที่ฮอลแลนด์ เนื่องจากเนเธอร์แลนด์มีนักเรียน นักศึกษาต่างชาติจำนวนมาก และมักในเวลาไล่เลี่ยกันและมีความต้องการเช่าบ้านลักษณะเดียวกัน ดังนั้น หากต้องการหาบ้านช่วงเดือนก.ค. – ส.ค. อาจต้องใช้เวลาพอสมควร โดยปกติแล้วสำหรับนักศึกษาในโครงการแลกเปลี่ยน หรือเรียนหลักสูตรนานาชาติ ทางมหาวิทยาลัยจะจัดเตรียมห้องพักไว้ให้แล้ว ถ้าได้ห้องที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาให้ก็ควรรับ เนื่องจากสะดวกและได้มาตรฐาน แต่บางครั้งอาจไม่มีห้องน้ำในตัว

เป็นเรื่องปกติที่นักศึกษาจะแชร์บ้านร่วมกัน โดยจะมีห้องน้ำ ห้องสุขา ครัว และห้องนั่งเล่น ที่ใช้รวมกันกับนักศึกษาคนอื่น แต่แยกห้องนอนกัน บ้านหลังหนึ่งอยู่ได้ 4-6 คน และอาจมีผู้หญิงและผู้ชายอยู่ร่วมกัน

ค่าห้องพักทั่วไปในฮอลแลนด์อยู่ที่ประมาณ 300 ถึง 600 ยูโรต่อเดือน ก่อนที่จะเช่าห้อง ให้ตรวจสอบว่าค่าเช่ารวมค่าใช้จ่ายอะไรไว้แล้วบ้าง เพราะจะส่งผลค่อนข้างมากต่อค่าใช้จ่ายโดยรวม ที่พักบางแห่งรวมค่าแก๊ส ค่าไฟ ทีวี อินเทอร์เน็ตไว้ในค่าเช่าแล้ว แต่บางที่ก็ต้องจ่ายแยก สัญญาเช่าส่วนใหญ่มีกำหนดเวลาอย่างน้อย 6 เดือนหรือ 1 ปี

– การเดินทางภายในประเทศ สามารถทำได้ทั้งทางเครื่องบิน รถไฟ รถแท็กซี่ และจักรยาน โดยที่เนเธอร์แลนด์เป็น 1 ในประเทศของยุโรปที่มีสายรถไฟที่ทันสมัย และให้บริการหลากหลายเส้นทาง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะแบ่งเป็นระดับ First Class และ Second Class อย่างไรก็ตามรถไฟสายปกติภายในประเทศจะไม่สามารถระบุที่นั่งได้

ตั๋วรถไฟ ตั๋วจะสามารถหาซื้อได้จาก ที่ขายตั๋วของทาง NS (การรถไฟ) และจากเครื่องจำหน่ายตั๋ว นอกจากตั๋วปกติเที่ยวเดียวแล้ว ยังมี OV-chipcard cและ Public Transport Smart Card ซึ่งจะสามารถใช้โดยสารได้ในระะบบกาารขนส่งของทางรัฐได้ ทุก ๆ ประเทศ

รถไฟความเร็วสูง ในเนเธอร์แลนด์ จะเรียกว่า Fyra และ NS Hispeed Trains ซึ่งจะเดินทางจาก Rotterdam ถึง Amsterdam Aiport Schipholหรือ ถึงในเมืองของอัมสเตอร์ดัม

รถไฟกลางคืน NS Night Net Trains จะวิ่งระหว่าง Rotterdam Central, The Hague Hollands Spoor, Leiden Central, Amsterdam Airport Schiphol, Amsterdam Central ถึง Utrecht ในทุก ๆ ชั่วโมง และทุก ๆ คืน

อาหารการกิน เนเธอร์แลนด์มีชื่อเสียงในเรื่องเนยแข็งและวัฒนธรรมร้านกาแฟ (Coffee Shop) โดยมีบาร์ ภัตตาคารและตลาดมากมาย

อาหารมื้อเช้าและมื้อกลางวันของชาวดัตช์ไม่มีความแตกต่างกันมานัก เมนูอาหารส่วนใหญ่ก็จะประกอบไปด้วย ชีส กับท็อปปิ้งหวาน ๆ อาทิเช่น Hagelslag, Vlokken และ Muisjes รวมถึงขนมปังทาด้วยช็อคโกแล็ตหรือเนยถั่ว

ส่วนมื้อเย็นโดยปกติจะเสิร์ฟในเวลา 18.00 น. ซึ่งโดยวัฒนธรรมของชาวดัตช์ มื้ออาหารเย็นจะประกอบด้วย ถั่วหรือมันฝรั่ง, เนื้อและผัก เพื่อมาทำเมนูต่าง ๆ อาทิเช่น stamppot, pea soup ฯลฯ

สำหรับนักศึกษาไทยสามารถหาวัตถุดิบประกอบอาหารได้จากร้านเอเชีย การทำอาหารรับประทานเองจะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก

– นิสัยใจคอชาวดัชต์ โดยปกติ คนดัชท์เป็นคนตรงไปตรงมา พูดอะไรก็พูดกันตรงๆ ไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ต้องเกรงใจ บางทีนักเรียนไทยที่เพิ่งไปใหม่อาจยังไม่คุ้นเคย อาจรู้สึกหน้าชา เพราะคนดัชท์พูดไม่รักษาน้ำใจเท่าไหร่ แต่หากพยายามเข้าใจจะชอบชาวดัชต์ เพราะไม่ต้องคิดมาก เราทำอะไรดี เขาก็บอกว่าดี ไม่ดีเขาก็บอก เราจะได้ปรับปรุง

นอกจากนี้ คนดัชท์ยังเป็นคนที่วางแผนในการทำทุกๆสิ่ง จะไปไหน จะทำอะไร จะต้องทำนัดล่วงหน้าเสมอ และเมื่อนัดกับคนดัชท์แล้วควรจะไปให้ตรงเวลาด้วย

 

ข้อมูลเพิ่มเติม Useful links

https://www.nesothailand.org/

http://www.educatepark.com/netherlands/

http://www.hotcourses.in.th/study-in-netherlands/

Category
STUDY ABROAD