CHINA

About This Project

china-city

นอกจากประเทศจีนจะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ แหล่งผลิตสินค้าที่สำคัญของโลก รวมถึงมีตลาดขนาดใหญ่ จีนยังได้พัฒนาระบบการศึกษาให้มีมาตรฐานทัดเทียมนานาชาติ มีการเปิดหลักสูตรทั้งที่ภาษาจีน รวมถึงหลักสูตรอินเตอร์มากมาย ที่สำคัญรัฐบาลจีนยังให้ทุนสนับสนุนแก่นักศึกษาต่างชาติ จีนจึงอาจจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการศึกษาต่อในต่างประเทศ

 

Why study in China?

• จีนมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอย่างต่อเนื่อง

• จีนเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีประชากรมากกว่า 1 พันล้านคน

• มีประวัติศาสตร์ และความเจริญรุ่งเรืองทางอารยธรรมอันยาวนานกว่า 5,000 ปี

• ภาษาจีนมีผู้ใช้เป็นอันดับต้นๆของโลก และมีความสำคัญสำหรับโลกอนาคต ทั้งการติดต่อสื่อสาร และการทำธุรกิจ

• จีนมีภูมิประเทศที่สวยงามและหลากหลาย

• จีนและไทยมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นและยาวนาน

 

การศึกษาในประเทศจีน

ระบบการศึกษาของจีนวางแผนโดยรัฐบาลกลาง โดยมีกระทรวงศึกษาธิการจีนเป็นหน่วยงาน หลักที่สำคัญที่สุดในการควบคุมดูแลระบบการศึกษา รับผิดชอบโดยตรงในเรื่องของการบัญญัติ กฎหมาย กำหนดนโยบายและแผนงานด้านการศึกษา ดูแลและวางแผนการพัฒนาระบบการศึกษา  โดยจีนจัดให้มีการศึกษาภาคบังคับ คือการศึกษาในระดับประถมศึกษา 6 ปี มัธยมศึกษาตอนต้น 3 ปี มัธยมศึกษาตอนปลาย 3 ปี ซึ่งคล้ายคลึงกับระบบในประเทศไทย

จีนมีมหาวิทยาลัยที่เปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี โท และเอกเป็นจำนวนมาก ปัจจุบันมหาวิทยาลัยในจีนมีจำนวนประมาณ 3,000 แห่ง โดย 2 ใน 3 เป็นมหาวิทยาลัยของรัฐ และ 1 ใน 3 เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน การเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยของจีนจำเป็นต้องผ่านการ สอบเข้าศึกษา โดยดูจากระดับคะแนนในการสอบ มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในจีนส่วนใหญ่จะเป็น มหาวิทยาลัยของรัฐ

โดยมหาวิทยาลัยในจีนมีทั้งที่เปิดสอนหลักสูตรเฉพาะ อย่างแพทยศาสตร์  วิศวกรรมไฟฟ้า วิศกรรมอากาศยาน วิทยาสตร์และเทคโนโลยี ดีไซน์ ฯลฯ โดยการเรียนการสอนอาจเป็นภาษาจีน หรือภาษาอังกฤษตามแต่หลักสูตร นอกจากนั้นในประเทศจีน ยังมีสาขาของมหาวิทยาลัยหรือสถาบันชั้นนำของโลกไปเปิดหลักสูตร เช่น Raffle Design Institute, Duke, John Hopkins, Nottingham

 

การสมัครเรียนต่อในสถาบันอุดมศึกษาในประเทศจีน   

การสมัครเข้าเรียนต่อระดับอุดมศึกษาสามารถกระทำได้อย่างสะดวกผ่านทางศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อต่างๆ  หรือสามารถสมัครได้เองโดยตรง โดยทั่วไปเอกสารที่ใช้สมัครประกอบด้วยเอกสารด้านการศึกษา (Transcript) ใบสมัคร รูปถ่ายและถ้าเป็นหลักสูตรที่ดำเนินการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ อาจต้องใช้คะแนนสอบวัดระดับความสามารถด้านภาษาอังกฤษ เช่น TOEFL หรือ IELTS และถ้าเป็นหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาจีน อาจจะต้องใช้คะแนนสอบภาษาจีน หรือที่เรียกว่า Hanyu Shuiping Kaoshi (HSK) โดยการสอบจะมีการแบ่งออกเป็นระดับต่างๆ โดยทั่วไปมหาวิทยาลัยมักจะต้องการระดับ 4 ขึ้นไป

รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบ HSK สามารถดูเพิ่มเติมได้ตามลิ๊งค์ http://www.lovechineseclub.com/newhsk

 

ค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อในประเทศจีน

ค่าใช้จ่ายในการศึกษาต่อในประเทศจีน อาจจะสูงกว่าค่าใช้จ่ายในการเรียนในประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับการเรียนต่อในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา การเรียนในประเทศจีนมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่า โดยค่าใช้จ่ายอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละหลักสูตรที่นักศึกษาเลือกเรียน หรือค่าครองชีพในแต่ละเมืองที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่

 

การเตรียมตัวไปศึกษาต่อในประเทศจีน

1. เตรียมเอกสาร เมื่อได้รับการตอบรับเข้าศึกษาแล้ว ลำดับถัดไป นักศึกษาต้องไปขอวีซ่าเพื่อเดินทางไปยังประเทศจีน หรือสอบถามโดยตรงกับสถานทูต นอกจากนั้น นักศึกษาอาจซื้อประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งจะมีความจำเป็นมากในกรณีฉุกเฉิน และอาจต้องใช้เมื่อขอวีซ่าอีกด้วย

2. การเตรียมความพร้อมของตัวเอง ถึงแม้ว่าบางหลักสูตรในประเทศจีนไม่ได้กำหนดว่าผู้สมัครต้องพูดภาษาจีนได้ แต่การมีพื้นฐานไปบ้างก็จะช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายยิ่งขึ้น การศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับประเทศจีน วัฒนธรรม ข้อปฏิบัติต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่นักศึกษาพึงกระทำ นอกจากนั้น การเตรียมร่างกายให้พร้อม แข็งแรง ก็เป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากภูมิประเทศและภูมิอากาศของจีนค่อนข้างต่างจากบ้านเรา คือฤดูหนาว อุณหภูมิอาจติดลบ การเตรียมร่างกาย รวมถึงเสื้อผ้าและยาจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง

3. การเตรียมจิตใจ การเตรียมจิตใจให้พร้อมเป็นสิ่งสำคัญมากในการเรียนต่อในต่างประเทศ นักศึกษาจะต้องรู้ว่า เมื่อก้าวออกจากประเทศไทยไป จะต้องดูแลตัวเองให้ได้ จะไม่มีคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนสนิทอยู่ใกล้ๆกับเราอีกแล้ว การจะทำอะไรจะต้องพึ่งตัวเองมากขึ้น นอกจากนั้น ยังต้องฝึกจิตใจให้สามารถยอมรับความแตกต่างให้ได้ ทั้งความแตกต่างด้านความเป็นอยู่ ว่ามันอาจจะไม่เหมือนบ้านเรา อาจจะไม่สะดวกสบาย อาจจะสกปรกกว่า หรือวัฒนธรรมการกิน การพูด การใช้ชีวิตร่วมกันอาจจะแตกต่างออกไป นักศึกษาต้องฝึกให้ตนเองเป็นคน open-minded เปิดรับ ทำความเข้าใจ และปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนั้นๆได้ จึงจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศได้อย่างมีความสุข

 

การใช้ชีวิตในประเทศจีน

           –  ที่อยู่อาศัย  เนื่องจากสภาพแวดล้อมในเมืองจีนไม่แตกต่างกับประเทศไทยมากนัก นักศึกษาจึงไม่ต้องกังวลด้านการปรับตัวมากนัก ที่อยู่อาศัยในช่วงปีแรกมหาวิทยาลัยจะบังคับให้นักศึกษาอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย และในปีต่อๆ มาขึ้นอยู่กับว่ามหาวิทยาลัยนั้นจะให้ย้ายไปอาศัยนอกมหาวิทยาลัยหรือไม่ ทั้งนี้ หอพักของนักศึกษาต่างชาติจะดีกว่าหอพักของนักศึกษาภายในประเทศ โดยจำนวนผู้พักอาศัยจะเป็น 2 คน/ห้อง (แทนที่จะเป็น 4, 6 หรือ 8 คน) ภายในห้องจะมีอินเตอร์เน็ตไร้สาย ห้องน้ำ เตียง ฯลฯ แต่หากนักศึกษาจะย้ายออกควรคำนึงความปลอดภัยและระยะห่างระหว่างที่อยู่อาศัยและที่เรียนด้วย

          –  การเดินทาง  ประเทศจีน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ มีระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกสบาย สามารถเดินทางได้โดยรถไฟใต้ดิน รถเมล์ หรือแท็กซี่ และการเดินทางระหว่างเมืองไกลๆ ก็มีรถไฟ ตั้งแต่รถไฟความเร็วสูงอย่างดี หรือรถไฟเกรดบ้านๆ ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันออกไปตามแต่คุณภาพ นอกจากนั้น จีนยังเป็นประเทศที่มีสายการบินมากมาย ทั้ง China Eastern, Western, Southern ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางระหว่างเมืองหรือระยะทางไกลสะดวกยิ่งขึ้น การจองตั๋วเครื่องบินก็สามารถเข้าไปจองได้ใน 2 เว็บไซด์ยอดฮิตอย่าง elong และ ctrip

            – อาหารการกิน  ถึงแม้ว่าคนไทยจะคุ้นเคยกับอาหารจีน เพราะสามารถหาทานได้ง่ายตามภัตตาคารจีนทั่วไป แต่เมื่อไปประเทศจีนจริงๆแล้ว หลายคนมักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อาหารจีนในไทยอร่อยถูกปากมากกว่า แต่เราก็ต้องเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ แล้วเราจะสนุกเพลิดเพลินไปกับมัน เพราะอาหารจีนนั้นมีความหลากหลายมาก ตั้งแต่กระบวนการทำ คือ ต้ม ผัด นึ่ง ทอด รวมถึงรสชาติของอาหารในแต่ละภูมิภาคก็ไม่เหมือนกัน

อาหารเสฉวน เป็นอาหารจีนที่ใช้เครื่องเทศและของป่ามาก เครื่องปรุงที่เป็นเอกลักษณ์คือพริกหอมหรือพริกเสฉวน เป็นอาหารรสจัดรวมทั้งรสเผ็ดร้อน ใช้เต้าซี่เป็นเครื่องปรุงมีเครื่องเทศมาก อาหารที่มีชื่อเสียงคือซุปเสฉวน

อาหารกวางตุ้ง เป็นอาหารจีนที่เด่นด้านการใช้เทคนิคการปรุงเพื่อคงความสดใหม่ของอาหารมากที่สุดมักใช้น้ำมันหอยและผักมาก ปรุงเน้นการปรุงอาหารได้ดูสด รสชาตินุ่มนวล และมีอาหารประเภทติ่มซำที่เป็นรู้จักกันดี อาหารที่มีชื่อเสียง ได้แก่ หมูหัน เป็ดย่างและนกพิราบทอดกรอบ

อาหารฮกเกี้ยน เป็นอาหารจีนที่เด่นด้านการใช้น้ำซุป มักใช้ข้าวหมักสีแดงสด โดยที่นำมาหมักเต้าหู้ยี้สีแดงมีน้ำซุปใสที่เก่าที่สุดและใช้เครื่องปรุงบางอย่างจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นน้ำปลาและผงกะหรี่ อาหารทีมีชื่อเสียงคือพระกระโดดกำแพง

อาหารไหหลำ อาหารส่วนใหญ่มีเต้าเจี้ยวถั่วเหลืองและถั่วดำ เป็นเอกลักษณ์พิเศษ และใช้น้ำส้มปรุงรสได้ โดยทั่วไปจะมีชนิดอาหารคล้ายอาหารจีนแบบอื่นๆ แต่จะมีรสชาติและหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ขนมไหว้พระจันทร์แบบไหหลำจะมีไส้น้อยกว่าแบบอื่น และบ๊ะจ่างแบบไหหลำก็จะเน้นข้าวเหนียวมากกว่าแบบอื่น อาหารที่มีชื่อเสียงคือ ขนมจีนไหหลำ

อาหารปักกิ่ง เน้นการทอดที่กรอบและนิ่มนวล แต่อาหารไขมันค่อนข้างสูง ทั้งนี้เพราะภูมิอากาศที่หนาวเย็น

อาหารซัวเถา เน้นในการตุ๋นและเคี่ยวเปื่อย รสชาติของอาหารที่เปื่อยนุ่มจนแทบละลายเมื่อถูกลิ้น

อาหารชานตง เป็นอาหารจีนที่มีความโดดเด่นในด้านเป็นอาหารในราชสำนัก และได้รวมอาหารที่ได้รับอิทธิพลจากชาวแมนจูและชาวมองโกลเข้าไว้ด้วย เช่น เป็ดปักกิ่งและหม้อไฟมองโกเลีย

อาหารเซี่ยงไฮ้ เป็นอาหารจีนที่ได้รับอิทธิพลอาหารตะวันตกมาก เพราะเป็นเมืองท่าเมืองเดียวของจีนในสมัยที่เริ่มติดต่อกับชาติตะวันตก อาหารที่มีชื่อเสียงเช่น เป็ดอัดแห้ง และอาหารที่ปรุงจากปูขน

อาหารจีนแต้จิ๋ว มีลักษณะคล้ายอาหารจีนกวางตุ้ง แต่เน้นอาหารทะเลมากกว่า

– คนจีน  การจะบอกเล่าถึงอุปนิสัยของคนจีน อาจทำได้ยากและไม่สามารถเหมารวมได้ เนื่องจากจีนมีประชากรมาก มีระดับการพัฒนาของประชากรต่างกัน เจเนอเรชั่นของประชากรต่างกัน มีทั้งคนจีนรุ่นใหม่และรุ่นเก่า และพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนในไทยก็อาจจะแตกต่างกับพฤติกรรมที่เขาทำในประเทศก็ได้

คนจีนส่วนหนึ่งยึดถือค่านิยมตามหลักของขงจื๊อ ซึ่งมุ่งเน้นการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ให้ความสำคัญกับครอบครัว และความสัมพันธ์ ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ  และยังคงยึดมั่นในประเพณี ในขณะที่คนจีนรุ่นใหม่ ก็มีวิถีชีวิตแบบคนเมือง มีแรงผลักดันที่จะนำพาตัวเองไปสู่ความสำเร็จสูง ต้องการยกระดับชีวิตของตัวเอง จนบางครั้งอาจกลายเป็นพฤติกรรมในแง่ลบ

การผูกมิตรกับคนจีน โดยเฉพาะเพื่อนร่วมชั้นในมหาวิทยาลัยนั้นทำได้ไม่ยาก เนื่องจากคนจีนเองก็ต้องการมีเพื่อนต่างชาติ แต่มิตรภาพจะยั่งยืนยาวนาน หรือลึกซึ้งเพียงไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวเรา หัวใจสำคัญ คือ การเปิดใจ ทำความเข้าใจ และยอมรับความแตกต่างระหว่างกันให้ได้

 

ข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับการศึกษาต่อในประเทศจีน

Study in Shanghai : http://www.thaishanghai.com/th/study_shanghai/

มหาวิทยาลัยคู่สัญญา : http://inter.tbs.tu.ac.th/index.php/partner-universities/

Category
STUDY ABROAD